การลดปริมาณการใช้วัสดุมุงหลังคาทรงจั่วให้เหลือน้อยที่สุดในขั้นตอนการออกแบบ โดยใช้วิธีเชิงพันธุกรรมประเมินระยะห่างระหว่างแป

ผู้แต่ง

  • ไพจิตร ผาวัน
  • วริสรา เลิศไพฑูรย์พันธ์ ภาควิชาวิศวกรรมโยธาและการพัฒนาเมือง คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีปทุม

คำสำคัญ:

ระยะห่างแป, แบบจำลองสารสนเทศอาคาร, ลดวัสดุก่อสร้างในขั้นตอนออกแบบ, วิธีเชิงพันธุกรรม

บทคัดย่อ

งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อประยุกต์ใช้วิธีเชิงพันธุกรรมวิเคราะห์หาระยะห่างแปโครงหลังคาทรงจั่วให้ใช้วัสดุมุงน้อยที่สุด งานวิจัยเริ่มจากการนำแบบ 2 มิติ ของอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก 4 ชั้นหลังคาทรงจั่ว มาสร้างเป็นแบบจำลอง 3 มิติ ด้วยระดับความละเอียดของโมเดล LOD350 โดยอาศัยซอฟท์แวร์บิม (BIM Software) จากนั้นกำหนดรูปแบบจำลองระยะห่างแปตามหลักวิศวกรรมและข้อกำหนดต่างๆ ของผู้ผลิตวัสดุมุง (กระเบื้องลอนคู่) โดยกำหนดตัวแปรที่ใช้ในการคำนวณหาปริมาณกระเบื้องลอนคู่ คือ ระยะห่างแป ความสูงดั้ง ความกว้างและความยาวของหลังคา ด้วยการปรับเปลี่ยนตัวแปรความสูงดั้งตั้งแต่ความสูง 3.00-5.00 เมตร จากนั้นผู้วิจัยได้ทำการออกแบบจีเนติกอัลกอริทึมแบบจุดประสงค์เดียว และกำหนดพารามิเตอร์ที่เกี่ยวข้องต่าง ๆ ด้วยวิธีการขั้นตอนเชิงพันธุกรรมคำนวณหาค่าความเหมาะสมในการใช้ปริมาณกระเบื้องลอนคู่ พบว่าปริมาณกระเบื้องลอนคู่ที่ได้จากการใช้วิธีเชิงพันธุกรรมเท่ากับการทำแบบรายละเอียดก่อสร้าง (Shop Drawing) คือ 3,310 แผ่น แสดงให้เห็นว่าการใช้วิธีเชิงพันธุกรรมร่วมกับแบบจำลองสารสนเทศอาคารสามารถนำมาใช้ในการหาระยะห่างแปได้เป็นอย่างดี และการใช้วิธีเชิงพันธุกรรมเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ให้ผลลัพธ์ที่ดีใกล้เคียงตามวัตถุประสงค์ของโครงการก่อสร้างโดยสามารถนำไปประยุกต์ใช้เพื่อลดปริมาณการใช้วัสดุก่อสร้างหรือลดปริมาณวัสดุเหลือใช้เพื่อตอบสนองต่อการพัฒนาที่ยั่งยืน

Downloads

Download data is not yet available.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2023-07-08

วิธีการอ้างอิง

ผาวัน ไ., & เลิศไพฑูรย์พันธ์ ว. (2023). การลดปริมาณการใช้วัสดุมุงหลังคาทรงจั่วให้เหลือน้อยที่สุดในขั้นตอนการออกแบบ โดยใช้วิธีเชิงพันธุกรรมประเมินระยะห่างระหว่างแป. การประชุมวิศวกรรมโยธาแห่งชาติ ครั้งที่ 28, 28, BIM02–1. สืบค้น จาก https://conference.thaince.org/index.php/ncce28/article/view/2579

##plugins.generic.recommendByAuthor.heading##