การประเมินประสิทธิภาพของสารยับยั้งการกัดกร่อนของเหล็กเสริมในคอนกรีต โดยวิธีการเร่งปฏิกิริยาไฟฟ้า

ผู้แต่ง

  • ศุภกร ประพัสสร ภาควิชาวิศวกรรมโยธา สถาบันวิศวกรรมศาสตร์และเทคโนโลยีอุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมหานคร
  • วลัยรัตน์ บุญไทย ภาควิชาวิศวกรรมโยธา สถาบันวิศวกรรมศาสตร์และเทคโนโลยีอุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมหานคร
  • ณัฐชานนท์ นนทูล ภาควิชาวิศวกรรมโยธา สถาบันวิศวกรรมศาสตร์และเทคโนโลยีอุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมหานคร

คำสำคัญ:

การกัดกร่อนของเหล็กเสริม, สารเคลือบ, การเร่งปฏิกิริยาสนิม, เถ้าแกลบ, เถ้าลอย

บทคัดย่อ

บทความนี้ได้ทำการทดสอบประสิทธิภาพระบบการป้องกันสนิมของเหล็กเสนิมโดยการใช้สารยับยั้งการเกิดสนิมประเภททาเคลือบ โดยพิจารณาการเปรียบเทียบประสิทธิภาพสารเคลือบประเภท เคลือบผิวเหล็กเสริม, เคลือบผิวคอนกรีต และการใช้สารเคลือบทั้ง 2 ประเภทร่วมกัน เมื่อใช้วัสดุประสานผสมเพิ่มที่แตกต่างกัน คือ ซีเมนต์ประเภทที่ 5, เถ้าลอย 35%, เถ้าแกลบหยาบ และเถ้าแกลบละเอียด ในอัตราส่วน 10%, 25% และ 40% ของน้ำหนักซีเมนต์ มีตัวอย่างทั้งสิ้น 36 ตัวอย่าง  โดยติดตั้งเหล็กเสริมในแท่งคอนกรีตทรงกระบอก ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 10 เซนติเมตร ความสูง 20 เซนติเมตร เมื่อคอนกรีตมีอายุ 28 วัน ทำการเร่งปฏิกิริยาสนิมเหล็กของเหล็กเสริมคอนกรีตด้วยวิธีเซลล์ไฟฟ้าเคมีในบ่อที่มีสารละลายโซเดียมคลอไรด์ 4% หลังจากเร่งปฏิกิริยาเรียบร้อยจึงตรวจสอบอัตราการสูญเสียน้ำหนักของเหล็กเสริมจากการเกิดสนิม และตรวจสอบการแทรกซึมปริมาณคลอไรด์ ที่ระยะ 2.5 เซนติเมตร และ 5 เซนติเมตร จากผิวของก่อนตัวอย่างคอนกรีต ด้วยวิธีไทเทรต ผลทดสอบพบว่าการทดสอบการสูญเสียน้ำหนักของเหล็กเสริม ซึ่งการสารเคลือบผิวเหล็กมีประสิทธิภาพในการป้องกันการเกิดสนิมที่ดีที่สุด ส่วนปริมาณคลอไรด์ตัวอย่างคอนกรีตที่ใช้ซีเมนต์ประเภทที่ 5 และมีส่วนผสมของเถ้าลอย 35% และขี้เถ้าแกลบที่  10% - 40% มีปริมาณคลอไรด์ น้อยกว่าตัวอย่างคอนกรีตที่ผสมด้วยซีเมนต์ประเภทที่ 1 ซึ่งสารเคลือบผิวคอนกรีตที่ใช้ในการทดสอบมีประสิทธิภาพในการป้องกันการซึมผ่านของคลอไรด์ใกล้เคียงกับการใช้วัสดุประสาน

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2025-06-25