การตรวจสอบและการประเมินสภาพสะพานคอนกรีตในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก

ผู้แต่ง

  • ธนพล ดำทอง จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
  • พศิน บัวบาน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
  • ณัฐศิวัช บุญมา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
  • วิทิต ปานสุข จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

คำสำคัญ:

สะพานคอนกรีต, คาร์บอเนชั่น, การกัดกร่อนของเหล็กเสริม

บทคัดย่อ

งานวิจัยนี้มุ่งเน้นการศึกษาการเสื่อมสภาพของโครงสร้างสะพานที่เป็นโครงสร้างคอนกรีต โดยขอบเขตของงานวิจัยได้ทำการศึกษาสะพานในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ครอบคลุมพื้นที่จังหวัดชลบุรี ระยอง และฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นพื้นที่ที่เผชิญกับปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดการเสื่อมสภาพของโครงสร้าง เช่น การเกิดคาร์บอเนชันและการกัดกร่อนของเหล็กเสริม ซึ่งส่งผลกระทบต่อความมั่นคงและอายุการใช้งานของโครงสร้าง งานวิจัยนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่อวิเคราะห์สภาพสะพานโดยการตรวจสอบการเกิดคาร์บอเนชันและการกัดกร่อนของเหล็กเสริมโดยใช้สมการทางคณิตศาสตร์ที่เกี่ยวข้องมาวิเคราะห์ผล 

กระบวนการศึกษาดำเนินการโดยการรวบรวมข้อมูลจากหน่วยงานราชการ เช่น ชนิดและจำนวนสะพาน จากนั้นนำข้อมูลดังกล่าวมาวิเคราะห์ โดยใช้สูตรทางวิศวกรรมเพื่อคำนวณพฤติกรรมของโครงสร้างและ คาดการณ์แนวโน้มการเสื่อมสภาพโดยใช้ดัชนีสำคัญ 3 ประเภท ได้แก่ Margin Ratio for Safety, Margin Ratio for Durability และ Deviation Ratio เพื่อประเมินความมั่นคงและความทนทานของสะพานอย่างเป็นระบบ 

ผลการประเมินพบว่า มีสะพานจำนวน 86 แห่ง ที่ยังอยู่ในช่วงก่อนการเกิดการกัดกร่อน (Latent period) ซึ่งประกอบด้วยสะพานประเภท Box Beam จำนวน 25 แห่ง และ Plank Girder จำนวน 61 แห่ง ตามเกณฑ์ Margin Ratio for Durability ขณะที่จากดัชนี Deviation Ratio พบว่าสะพานส่วนใหญ่อยู่ในระดับ Degree 2 ซึ่งเป็นช่วงที่เริ่มเกิดรอยแตกร้าวบนผิวคอนกรีต โดยมีสะพานประเภท Slab Type จำนวน 250 แห่ง และ Plank Girder จำนวน 205 แห่งอยู่ในระดับนี้ สะท้อนถึงแนวโน้มของการเสื่อมสภาพที่ควรได้รับการซ่อมแซมอย่างเร่งด่วน 

ข้อมูลและผลการวิเคราะห์ที่ได้จากการศึกษาครั้งนี้สามารถนำไปใช้เป็นแนวทางในการพัฒนาแผนป้องกันการเสื่อมสภาพของสะพานคอนกรีตอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงการบำรุงรักษาและการเสริมกำลังเพื่อให้ สะพานมีความปลอดภัยและสามารถยืดอายุการใช้งานในระยะยาวได้อย่างยั่งยืน

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2025-06-25