การติดตามการเคลื่อนตัวของโครงสร้างพื้นฐานโดยใช้เทคโนโลยี InSAR : กรณีศึกษาอ่างพักน้ำตอนบน โรงไฟฟ้าลำตะคองชลภาวัฒนา
คำสำคัญ:
การติดตามการเคลื่อนตัว, เทคนิคอนุกรมเวลา InSAR, โครงสร้างพื้นฐานบทคัดย่อ
ปัญหาการเคลื่อนตัวของโครงสร้างพื้นฐานสามารถเกิดได้จากหลายปัจจัย หากไม่ได้รับการติดตามหรือตรวจสอบจะส่งผลให้เกิดความเสียหายอย่างมาก ดังนั้นการใช้เทคโนโลยีดาวเทียมเรดาร์อินเตอร์เฟอโรเมตรีจึงเป็นอีกทางเลือกสำหรับการติดตามและตรวจสอบโครงสร้างที่สามารถตรวจสอบรายละเอียดได้มากขึ้น ลดการใช้ทรัพยากรบุคคล ทำให้ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานลดลงในระยะยาว งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อนำเสนอผลลัพธ์จากการติดตามการเคลื่อนตัวของโครงสร้างพื้นฐานโดยใช้เทคโนโลยี InSAR ในหลากหลายรูปแบบ ซึ่งนำข้อมูลภาพถ่ายดาวเทียม Sentinel-1 ในแนวการโคจรของดาวเทียมทั้งขาขึ้น (Ascending) และขาลง (Descending) จำนวนอย่างละ 34 ภาพ ตั้งแต่เดือนมกราคม 2560 ถึง เดือนมกราคม 2566 มาทำการวิเคราะห์ด้วยเทคนิคอนุกรมเวลาอินซาร์ (TSInSAR) พื้นที่ศึกษาคือ อ่างพักน้ำตอนบน โรงไฟฟ้าลำตะคองชลภาวัฒนา จังหวัดนครราชสีมา จากผลลัพธ์ที่ได้พบค่าการเคลื่อนตัวของโครงสร้างประมาณ -04.69 ถึง +05.62 มิลลิเมตรต่อปี ในแนวการโคจรแบบขาขึ้น ขณะที่ค่าการเคลื่อนตัวในแนวการโคจรแบบขาลง ประมาณ -03.84 ถึง +05.84 มิลลิเมตรต่อปี ซึ่งค่าการเคลื่อนตัวของโครงสร้างที่แตกต่างกันอาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ การวิเคราะห์โดยใช้ข้อมูลในแนวการโคจรของดาวเทียมแบบขาขึ้นหรือแบบขาลงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ จึงสามารถเพิ่มความแม่นยำในการวิเคราะห์บริเวณพื้นที่ที่มีการทรุดตัวโดยการใช้ข้อมูลในแนวการโคจรแบบขาขึ้นและแบบขาลงร่วมกัน นอกจากนี้ ผลจากการวิเคราะห์ในงานวิจัยสามารถนำไปใช้ร่วมกับเทคนิคทางวิศวกรรมและสารสนเทศภูมิศาสตร์เพื่อนำมาแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ได้แม่นยำมากขึ้น