การศึกษาการซึมผ่านและการตกค้างของแมกนีเซียมซัลเฟตในคอนกรีตรีไซเคิลที่มีขยะพลาสติกเป็นส่วนผสม

ผู้แต่ง

  • ศุทธศรี นราลักษณ์ ภาควิชาวิศวกรรมโยธา คณะวิศวกรรมศาสตร์ กำแพงแสน มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จ.นครปฐม
  • สิรัญญา ทองชาติ วิศวกรรมโยธา คณะวิศวกรรมศาตร์ กำแพงแสน มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จ.นครปฐม
  • กฤษณะ จันทรโชติ วิศวกรรมโยธา คณะวิศวกรรมศาสตร์ กำแพงแสน มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จ.นครปฐม

คำสำคัญ:

การซึมผ่านของแมกนีเซียมซัลเฟต, ขยะพลาสติก, คอนกรีตรีไซเคิล, วัสดุมวลรวมรีไซเคิล

บทคัดย่อ

ปัจจุบัน คอนกรีตเป็นวัสดุหลักที่ถูกนำมาใช้ในงานก่อสร้าง โดยมีส่วนผสมหลัก ได้แก่ วัสดุมวลรวมซึ่งได้จากทรัพยากรธรรมชาติที่มีอยู่อย่างจำกัด อีกทั้งปัญหาขยะพลาสติกที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องยังส่งผลกระทบโดยตรงต่อสิ่งแวดล้อม งานวิจัยนี้เป็นการศึกษาการต้านทานการซึมผ่านของแมกนีเซียมซัลเฟตในคอนกรีตรีไซเคิลที่ได้จากวัสดุมวลรวมรีไซเคิลและขยะพลาสติก โดยนำขยะพลาสติกมาผสมแทนวัสดุมวลรวมละเอียดในอัตราร้อยละ 10 และ 20 โดยมีน้ำและซีเมนต์เป็นส่วนผสมของคอนกรีตรีไซเคิล จากนั้นจึงนำไปบ่มด้วยสารละลายแมกนีเซียมซัลเฟตในปริมาณร้อยละ 5 โดยน้ำหนักของส่วนผสม และทำการเปรียบเทียบในช่วงเวลา 0 และ 28 วันระยะเวลาการบ่มที่แตกต่างกันส่งผลให้ก้อนตัวอย่างที่มีอายุการบ่มในสารละลายแมกนีเซียมซัลเฟตเป็นเวลานานมีการเสื่อมสภาพมากกว่า เนื่องจากสารละลายสามารถแทรกซึมและสร้างความเสียหายให้แก่คอนกรีตรีไซเคิลได้ ดังนั้น ผู้วิจัยจึงมีแนวคิดที่จะศึกษาความต้านทานต่อแมกนีเซียมซัลเฟตของคอนกรีตรีไซเคิลที่มีส่วนผสมจากขยะพลาสติก โดยการทดสอบเพื่อหาปริมาณแมกนีเซียมซัลเฟตในคอนกรีตรีไซเคิล ผลการวิจัยพบว่า ปริมาณของวัสดุมวลรวมรีไซเคิลและขยะพลาสติกมีผลต่อความคงทนและความสามารถในการต้านทานการซึมผ่านของคอนกรีตรีไซเคิล นอกจากนี้ ส่วนผสมของคอนกรีตรีไซเคิลที่มีขยะพลาสติกอาจสามารถนำไปพัฒนาและต่อยอดงานวิจัยในอนาคตได้

ปัจจุบันคอนกรีตเป็นวัสดุก่อสร้างหลักที่อาศัยวัสดุมวลรวมจากทรัพยากรธรรมชาติ ซึ่งมีปริมาณจำกัด ขณะเดียวกัน ปัญหาขยะพลาสติกที่เพิ่มขึ้นส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างรุนแรง การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาการซึมผ่านและการตกค้างของแมกนีเซียมซัลเฟตในคอนกรีตรีไซเคิลที่ประกอบด้วยวัสดุมวลรวมรีไซเคิลและขยะพลาสติก โดยใช้ขยะพลาสติกแทนวัสดุมวลรวมละเอียดในสัดส่วนร้อยละ 10 โดยน้ำหนัก จากนั้นทำการบ่มตัวอย่างในสารละลายแมกนีเซียมซัลเฟตร้อยละ 5 โดยน้ำหนัก และเปรียบเทียบผลที่ระยะเวลา 0 และ 140 วัน ผลการทดสอบพบว่า คอนกรีตที่มีวัสดุมวลรวมรีไซเคิลและขยะพลาสติกมีความต้านทานต่อการซึมผ่านของแมกนีเซียมซัลเฟตลดลงเมื่อเวลาผ่านไป และเกิดการเสื่อมสภาพเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ทั้งนี้ ขยะพลาสติกมีอิทธิพลต่อโครงสร้างจุลภาคและการซึมผ่านของสารละลาย การศึกษานี้ชี้ให้เห็นถึงศักยภาพและข้อจำกัดของการใช้ขยะพลาสติกในคอนกรีตรีไซเคิล ซึ่งสามารถนำไปพัฒนาต่อยอดในงานด้านความทนทานของวัสดุก่อสร้างในอนาคต

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2025-06-25