ผลกระทบของอุณภูมิต่อกำลังรับแรงอัดของผิวทางแอสฟัลต์คอนกรีตรีไซเคิลที่ปรับปรุงด้วยจีโอพอลิเมอร์ สำหรับใช้เป็นวัสดุชั้นพื้นทาง
คำสำคัญ:
ผิวทางแอสฟัลต์คอนกรีตรีไซเคิล, วัสดุชั้นพื้นทาง, การบ่มภายใต้สภาวะสลับอุณหภูมิ, เถ้าลอย, เถ้าหนักบทคัดย่อ
การศึกษานี้ได้ศึกษาถึงผลกระทบของอุณภูมิต่อกำลังรับแรงอัดของผิวทางแอสฟัลต์คอนกรีตรีไซเคิล (RAP) ที่ปรับปรุงด้วยจีโอพอลิเมอร์จากเถ้าถ่านหินสำหรับใช้เป็นวัสดุชั้นพื้นทาง โดยทำการวิเคราะห์การรับกำลังอัดแกนเดียวของตัวอย่าง RAP ที่ปรับปรุงด้วยจีโอพอลิเมอร์จากเถ้าลอยและเถ้าหนัก ซึ่งใช้สารละลายอัลคาไลน์ที่เกิดจากโซเดียมไฮดรอกไซด์และโซเดียมซิลิเกตในการเร่งให้เกิดปฏิกิริยาจีโอพอลิเมอไรเซชัน ภายใต้สภาวะการบ่มแบบสลับอุณหภูมิ (อุณหภูมิห้อง, 40 และ 70 องศาเซลเซียส) โดยการนำเข้าตู้อบเป็นเวลา 12 ชั่วโมง และนำมาพักที่อุณภูมิห้องเป็นเวลา 12 ชั่วโมง ทำสลับไปจนครบอายุบ่ม 7 วัน ผลการศึกษาพบว่าตัวอย่าง RAP ที่ปรับปรุงด้วยจีโอพอลิเมอร์จากเถ้าลอยและเถ้าหนัก สามารถพัฒนากำลังอัดแกนเดียวได้มากกว่า 40 กก./ซม.² หลังการบ่ม 7 วัน ซึ่งอยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสมสำหรับการใช้งานเป็นวัสดุชั้นพื้นทาง นอกจากนี้สัดส่วนของเถ้าลอยและเถ้าหนักมีผลต่อค่ากำลังอัดแกนเดียวอย่างมีนัยสำคัญ โดยเมื่อเพิ่มปริมาณเถ้าลอยค่ากำลังอัดแกนเดียวจะเพิ่มขึ้น ในขณะที่การเพิ่มสัดส่วนเถ้าหนักทำให้ค่ากำลังอัดแกนเดียวลดลง สำหรับการบ่มภายใต้สภาวะสลับอุณหภูมิที่ 40 องศาเซลเซียส พบว่าค่ากำลังอัดแกนเดียวไม่แตกต่างอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับการบ่มที่อุณหภูมิห้อง การบ่มภายใต้สภาวะสลับอุณหภูมิที่ 70 องศาเซลเซียส ส่งผลให้ทุกตัวอย่างมีค่ากำลังอัดแกนเดียวสูงขึ้นเมื่อเทียบกับการบ่มที่อุณหภูมิห้อง ซึ่งบ่งชี้ว่าอุณหภูมิการบ่มเพิ่มขึ้นส่งผลให้ค่ากำลังอัดแกนเดียวมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นด้วย
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
ฉบับ
บท
การอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 Engineering Institute of Thailand

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความที่ได้รับคัดเลือกนำเสนอในการประชุม NCCE ถือเป็นลิขสิทธิ์ของวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ (วสท.) (Engineering Institute of Thailand)