ความสามารถของภาพถ่ายดาวเทียมในการตรวจจับความแห้งแล้งทางการเกษตร กรณีศึกษาลุ่มน้ำปิง
คำสำคัญ:
ภัยแล้งทางการเกษตร, ภาพถ่ายดาวเทียม, ลุ่มน้ำปิงบทคัดย่อ
ในการพัฒนาแบบจำลองเพื่อการพยากรณ์ภัยแล้งแล้วมักจะขาดข้อมูลภัยแล้งภาคสนาม ทำให้ขาดความเชื่อมั่นในความแม่นยำของการพยากรณ์ การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อใช้ภาพถ่ายดาวเทียมชี้วัดภัยแล้งเพื่อให้สามารถใช้ภาพถ่ายดาวเทียมแทนข้อมูลภาคสนามของความแห้งแล้งทางเกษตร ลุ่มน้ำปิงซึ่งประสบปัญหาภัยแล้งเสมอได้ถูกเลือกเป็นพื้นที่ศึกษา ข้อมูลภาพถ่ายดาวเทียม MODIS ข้อมูลการใช้ที่ดินและข้อมูลภัยแล้งจากกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ตลอดจนข้อมูลผลผลิตทางการเกษตรจากสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร ระหว่างปี พ.ศ.2557 ถึง พ.ศ.2563 ได้ถูกนำมาวิเคราะห์ความสอดคล้องระหว่างความแห้งแล้งทางเกษตรกับตัวแปรต่างๆ ที่คำนวณได้จากภาพถ่ายดาวเทียม ผลการวิเคราะห์ชี้ให้เห็นว่า Normalized Difference Vegetation Index (NDVI) และ Land Surface Temperature (LST) จากภาพถ่ายดาวเทียมทุก 16 วัน สามารถใช้สะท้อนความแห้งแล้งทางการเกษตรได้ดี โดยพบว่า เมื่อ NDVI มีค่าระหว่าง 0.37 ถึง 0.59 และ LST มีค่า 26.11 ถึง 42.97 แสดงถึงภัยแล้งทางการเกษตร จากการตรวจสอบความน่าเชื่อถือของเกณฑ์ดังกล่าวโดยใช้ข้อมูลระหว่างปี พ.ศ.2557 2558 2559 2560 และ 2561 พบว่าค่า NDVI และ LST มีความแม่นยำเฉลี่ย 70% ทั้งนี้ความแม่นยำมีความแตกต่างกันแต่ละพื้นที่ โดยจังหวัดแม่ฮ่องสอนมีความแม่นยำสูงสุด ขณะที่จังหวัดตากและนครสวรรค์มีค่าน้อยที่สุด
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
วิธีการอ้างอิง
ฉบับ
บท
การอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 Engineering Institute of Thailand

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความที่ได้รับคัดเลือกนำเสนอในการประชุม NCCE ถือเป็นลิขสิทธิ์ของวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ (วสท.) (Engineering Institute of Thailand)