การพัฒนาดัชนีเสี่ยงภัยแล้งเพื่อประเมินพื้นที่เสี่ยงด้วยข้อมูลดัชนีจากดาวเทียม
คำสำคัญ:
การสำรวจจากระยะไกล, กำลังรับน้ำหนักสูงสุด, ดัชนีภัยแล้ง, ภัยแล้งบทคัดย่อ
ปัจจุบันประเทศไทยประสบกับปัญหาภัยแล้งมากขึ้นอันเนื่องมาจากสภาวะภูมิอากาศและสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง (climate change) ที่ส่งผลต่อการเกิดปรากฏการโลกแปรปรวนและเป็นสาเหตุทำให้ปริมาณน้ำฝนน้อยลง ดังภัยแล้งที่เกิดขึ้นในปี 2562 และปี 2563 จึงควรเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์ภัยแล้งอย่างใกล้ชิด ดังนั้นเทคโนโลยีทางด้านสำรวจระยะไกล (Remote sensing) เช่น ข้อมูลจากดาวเทียม และ ระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ (geographic information system) จึงมีความสำคัญในการนำมาประยุกต์ใช้เพื่อติดตามและวิเคราะห์ข้อมูลด้านภัยแล้ง การพัฒนาดัชนีเสี่ยงภัยแล้ง (Drought Risk Index, DRI) จึงได้บูรณาการข้อมูลทางกายภาพ เช่น ข้อมูลการใช้ประโยชน์ที่ดิน ข้อมูลพื้นที่ชลประทาน ร่วมกับ ข้อมูลดัชนีที่ได้จากการคำนวณจากข้อมูลดาวเทียม เช่น NDVI LST VHI SMAP และ RFI มาวิเคราะห์ร่วมกันเพื่อให้ได้พื้นที่เสี่ยงภัยแล้งที่สามารถบ่งชี้ลักษณะการเกิดภัยแล้งด้านอุตุนิยมวิทยาและด้านการเกษตร รวมทั้งได้พัฒนาระบบที่สามารถแจ้งเตือนพื้นที่เสี่ยงในระดับตำบลและมีความถี่รายวัน และเมื่อตรวจสอบความถูกต้องกับข้อมูลจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพบว่าข้อมูลดัชนีมีความสอดคล้องเฉลี่ยร้อยละ 78 เมื่อเทียบกับข้อมูลกรมป้องกันและบรรเทาสารธารณภัย (ปภ.) ซึ่งถือว่าดัชนีสามารถนำมาชี้เป้าพื้นที่เสี่ยงภัยแล้งได้เบื้องต้น เพื่อเป็นข้อมูลสนับสนุนให้กับหน่วยงานและประชาชนที่เกี่ยวข้องนำไปใช้ได้
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
วิธีการอ้างอิง
ฉบับ
บท
การอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 Engineering Institute of Thailand

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความที่ได้รับคัดเลือกนำเสนอในการประชุม NCCE ถือเป็นลิขสิทธิ์ของวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ (วสท.) (Engineering Institute of Thailand)