การศึกษาสมบัติทางกลและกายภาพของคอนกรีตบล็อกปูพื้นจากเถ้าลอยน้ำกากส่า และ เถ้าแกลบทดแทนซีเมนต์
คำสำคัญ:
คอนกรีตบล็อกปูพื้น, เถ้าลอยน้ำกากส่า, เถ้าแกลบ, วัสดุทดแทนซีเมนต์, สมบัติทางกลและกายภาพบทคัดย่อ
คอนกรีตบล็อกปูพื้นเป็นอีกหนึ่งวัสดุที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลาย อาทิ พื้นถนน ทางเท้า ลานจอดรถ รวมไปถึง ท่าเรือ และ พื้นที่บางส่วนในสนามบิน(taxiways) เนื่องจากมีความแข็งแรง ทนทานต่อสภาพอากาศ และติดตั้งง่าย อย่างไรก็ตาม ในการผลิตคอนกรีตบล็อกปูพื้นจะมีส่วนผสมของซีเมนต์เป็นวัสดุหลัก ซึ่งมีต้นทุนสูงและส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจึงควรหาวัสดุเหลือทิ้งมาทดแทนการใช้ซีเมนต์ ดังนั้นการวิจัยนี้จึงมีวัตถุประสงค์เพื่อเปรียบเทียบสมบัติทางกลและกายภาพของคอนกรีตบล็อกปูพื้นที่ใช้เถ้าลอยน้ำกากส่าและเถ้าแกลบทดแทนซีเมนต์ โดยทำการขึ้นรูปคอนกรีตบล็อกปูพื้นที่มีส่วนผสมจากเถ้าแกลบและเถ้ากากส่าขนาด 14 ซม. x 24.5 ซม. x 6 ซม. ทดแทนซีเมนต์ในอัตราส่วนประมาณร้อยละ 2 ถึง 20 โดยน้ำหนัก และใช้อัตราส่วนของทรายต่อเถ้ารวมกับซีเมนต์ปอร์ตแลนด์ 2:1 แล้วนำไปอัดขึ้นรูปด้วยแม่พิมพ์คอนกรีตบล็อกปูพื้น อัดด้วยค้อนและแท่งไม้อัดแม่พิมพ์ และ ทำการทดสอบกำลังรับแรงอัด การดูดกลืนน้ำ และ ความหนาแน่นที่อายุ 7, 14 และ 28 วัน ตามมาตรฐาน มอก. 827-2531 จากผลการทดสอบพบว่า ค่ากำลังรับแรงอัดลดลงตามปริมาณการทดแทนซีเมนต์ที่เพิ่มขึ้น โดยการใช้เถ้าลอยน้ำกากส่าทดแทนซีเมนต์ที่ร้อยละ 6 และ เถ้าแกลบที่ร้อยละ 2 ให้ค่ากำลังรับแรงอัดที่ 28 วัน เท่ากับ 35.14 และ 38.50 เมกะพาสคาล ตามลำดับ ในขณะที่การดูดกลืนน้ำสูงขึ้นตามปริมาณการทดแทนซีเมนต์ โดยจากผลการทดสอบการดูดกลืนน้ำพบว่าการทดแทนด้วยเถ้าลอยน้ำกากส่าที่ร้อยละ 0-20 และเถ้าแกลบที่ร้อยละ 0-16 มีค่าการดูดกลืนน้ำยังเป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐาน และ ค่าความหนาแน่นแตกต่างกันอย่างไม่มีนัยสำคัญในทุกอัตราส่วนผสม โดยงานวิจัยนี้จะเป็นแนวทางในการประยุกต์ใช้วัสดุเหลือทิ้งจากภาคเกษตรกรรมและโรงงานอุตสาหกรรมมาพัฒนาเป็นวัสดุทางวิศวกรรมที่มีสมบัติตามมาตรฐาน ช่วยลดการใช้ซีเมนต์ เพิ่มมูลค่าวัสดุเหลือทิ้ง และสามารถนำไปพัฒนาเป็นประโยชน์กับทางวิสาหกิจชุมชนได้ต่อไป
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
วิธีการอ้างอิง
ฉบับ
บท
การอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 Engineering Institute of Thailand

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความที่ได้รับคัดเลือกนำเสนอในการประชุม NCCE ถือเป็นลิขสิทธิ์ของวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ (วสท.) (Engineering Institute of Thailand)