การประเมินผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศผ่านเส้นโค้ง IDF กรณีศึกษาจังหวัดสุราษฎร์ธานี
คำสำคัญ:
โค้ง IDF, ความเข้มฝน, สถานีโทรมาตร, วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย, การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศบทคัดย่อ
การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเปรียบเทียบโค้งความเข้มฝนระยะเวลาต่าง ๆ (IDF Curve) ระหว่างค่าที่ได้จากสถานีวัดฝน X.36 และ X.260 ช่วงปี พ.ศ. 2560–2567 กับค่ามาตรฐานของวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย (วสท.) ปี พ.ศ. 2548 เพื่อประเมินแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงของความเข้มฝนในพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ข้อมูลปริมาณฝนที่ใช้คำนวณค่า IDF ได้จากสถานีโทรมาตรของกรมชลประทานภาคใต้ ซึ่งบันทึกข้อมูลฝนราย 15 นาทีในช่วงปี พ.ศ. 2560–2567 ขณะที่ค่า IDF ของ วสท. ปี 2548 มาจากรายงานมาตรฐานทางระบายน้ำ (Standard of Wastewater and Storm Drainage System) ผลการวิเคราะห์พบว่า ค่า IDF จากสถานี X.36 และ X.260 ของจังหวัดสุราษฎร์ธานี มีค่าความเข้มฝนสูงกว่าค่าของ วสท. ปี 2548 ในทุกรอบปีการเกิดซ้ำ โดยความแตกต่างมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเมื่อรอบปีการเกิดซ้ำยาวขึ้น ทั้งนี้ ค่า IDF ของสถานี X.36 มีค่าความเข้มฝนสูงกว่าสถานี X.260 แสดงถึงความแตกต่างของลักษณะฝนในแต่ละพื้นที่ภายในจังหวัดเดียวกัน แนวโน้มการเพิ่มขึ้นของค่า IDF อาจเป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การเพิ่มขึ้นของความถี่พายุฝนรุนแรง หรือความแตกต่างของชุดข้อมูลที่ใช้ในการวิเคราะห์ แม้ว่าค่า IDF ของ วสท. ปี 2548 จะเป็นมาตรฐานที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในการออกแบบโครงสร้างระบายน้ำ แต่ผลการศึกษานี้แสดงให้เห็นว่า ค่าความเข้มฝนในปัจจุบันมีแนวโน้มสูงขึ้น อันอาจส่งผลต่อประสิทธิภาพของระบบระบายน้ำและการออกแบบโครงสร้างพื้นฐานในอนาคต ดังนั้น ควรมีการพิจารณาปรับปรุงค่ามาตรฐานให้สะท้อนถึงสถานการณ์ปัจจุบันมากขึ้น เพื่อรองรับสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงและลดความเสี่ยงจากน้ำท่วมในพื้นที่เมืองสุราษฎร์ธานี
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
วิธีการอ้างอิง
ฉบับ
บท
การอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 Engineering Institute of Thailand

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความที่ได้รับคัดเลือกนำเสนอในการประชุม NCCE ถือเป็นลิขสิทธิ์ของวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ (วสท.) (Engineering Institute of Thailand)