การวินิจฉัยการกัดเซาะภายในเขื่อนดินโดยใช้ตัวชี้วัดจากพิโซมิเตอร์
คำสำคัญ:
ระยะเวลาล่าช้า, อัตราส่วนแรงดันน้ำ, พิโซมิเตอร์, การกัดเซาะภายในบทคัดย่อ
การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินพฤติกรรมการไหลซึมและการกัดเซาะภายในเขื่อนดินด้วยดัชนีจากเครื่องมือวัด: Time Lag (TL) และ Pressure Ratio (PR) เป็นตัวชี้วัด โดยใช้ข้อมูลแรงดันน้ำ ปี 2003-2024 จากพิโซมิเตอร์ที่ติดตั้งภายในชั้นดิน residual soil ของเขื่อนดินที่เป็นกรณีศึกษา พบว่า TL มีแนวโน้มลดลงตามเวลา สะท้อนได้จาก OSP 10 ที่ TL ลดลงจาก 50, 20 และน้อยกว่า 1 วัน จากปี 2003, 2013 และ 2024 แสดงถึงการเปิดกว้างของรอยแตกในชั้นดินและความต่อเนื่องของเส้นทางการไหลซึม ในขณะที่ค่า PR ประเมินการกัดเซาะภายใน ในระดับ Very likely to Likely (PR = 1.0-0.8, 0.8-0.6) และลดลงเมื่อเข้าสู่ด้านท้ายน้ำ ที่ off-set จากแกนไปมากกว่า +80 เมตร แสดงถึงความก้าวหน้าของการกัดเซาะภายในจากเหนือน้ำสู่ท้ายน้ำ การใช้ TL และ PR ร่วมกันสามารถสะท้อนพฤติกรรมการกัดเซาะภายในได้ทั้งในเชิงเวลาและตำแหน่งทางกายภาพของเขื่อน ผลการศึกษาชี้ให้เห็นว่าแนวทางนี้สามารถใช้เป็นระบบเฝ้าระวังเพื่อประเมินความมั่นคงของเขื่อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการตรวจจับสัญญาณเริ่มต้นของการกัดเซาะภายใน ซึ่งสามารถนำไปใช้ในการวางแผนการซ่อมบำรุง การบริหารความเสี่ยง และเพิ่มความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยของเขื่อนในระยะยาว
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
วิธีการอ้างอิง
ฉบับ
บท
การอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 Engineering Institute of Thailand

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความที่ได้รับคัดเลือกนำเสนอในการประชุม NCCE ถือเป็นลิขสิทธิ์ของวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ (วสท.) (Engineering Institute of Thailand)