การวินิจฉัยการกัดเซาะภายในเขื่อนดินโดยใช้ตัวชี้วัดจากพิโซมิเตอร์

ผู้แต่ง

  • วิภาดา เทพจันทรา สาขาวิชาวิศวกรรมโยธา คณะวิศวกรรมศาสตร์และสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ จ.นนทบุรี
  • วรากร ไม้เรียง ภาควิชาวิศวกรรมโยธา คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กําแพงแสน
  • บรรพต กุลสุวรรณ ภาควิชาวิศวกรรมโยธา คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กําแพงแสน

คำสำคัญ:

ระยะเวลาล่าช้า, อัตราส่วนแรงดันน้ำ, พิโซมิเตอร์, การกัดเซาะภายใน

บทคัดย่อ

การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินพฤติกรรมการไหลซึมและการกัดเซาะภายในเขื่อนดินด้วยดัชนีจากเครื่องมือวัด: Time Lag (TL) และ Pressure Ratio (PR) เป็นตัวชี้วัด โดยใช้ข้อมูลแรงดันน้ำ ปี 2003-2024 จากพิโซมิเตอร์ที่ติดตั้งภายในชั้นดิน residual soil ของเขื่อนดินที่เป็นกรณีศึกษา พบว่า TL มีแนวโน้มลดลงตามเวลา สะท้อนได้จาก OSP 10 ที่ TL ลดลงจาก 50, 20 และน้อยกว่า 1 วัน จากปี 2003, 2013 และ 2024 แสดงถึงการเปิดกว้างของรอยแตกในชั้นดินและความต่อเนื่องของเส้นทางการไหลซึม ในขณะที่ค่า PR ประเมินการกัดเซาะภายใน ในระดับ Very likely to Likely (PR = 1.0-0.8, 0.8-0.6) และลดลงเมื่อเข้าสู่ด้านท้ายน้ำ ที่ off-set จากแกนไปมากกว่า +80 เมตร แสดงถึงความก้าวหน้าของการกัดเซาะภายในจากเหนือน้ำสู่ท้ายน้ำ การใช้ TL และ PR ร่วมกันสามารถสะท้อนพฤติกรรมการกัดเซาะภายในได้ทั้งในเชิงเวลาและตำแหน่งทางกายภาพของเขื่อน ผลการศึกษาชี้ให้เห็นว่าแนวทางนี้สามารถใช้เป็นระบบเฝ้าระวังเพื่อประเมินความมั่นคงของเขื่อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการตรวจจับสัญญาณเริ่มต้นของการกัดเซาะภายใน ซึ่งสามารถนำไปใช้ในการวางแผนการซ่อมบำรุง การบริหารความเสี่ยง และเพิ่มความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยของเขื่อนในระยะยาว

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2025-06-25

วิธีการอ้างอิง

[1]
เทพจันทรา ว., ไม้เรียง ว., และ กุลสุวรรณ บ., “การวินิจฉัยการกัดเซาะภายในเขื่อนดินโดยใช้ตัวชี้วัดจากพิโซมิเตอร์ ”, Thai NCCE Conf 30, ปี 30, น. GTE-04, มิ.ย. 2025.

Most read articles by the same author(s)

Similar Articles

<< < 5 6 7 8 9 10 

You may also start an advanced similarity search for this article.