การประยุกต์ใช้วัฏจักรการขับขี่ ในการประเมินมลพิษระหว่างช่องเก็บค่าผ่านทางแบบเงินสด และแบบอิเล็กทรอนิกส์: กรณีศึกษาทางยกระดับอุตราภิมุข
คำสำคัญ:
ทางยกระดับอุตราภิมุข, ระบบเก็บค่าผ่านทาง, วัฏจักรการขับขี่ในกรุงเทพมหานคร, มลพิษทางอากาศบทคัดย่อ
ปัจจุบันเทคโนโลยีการเก็บค่าผ่านทางบนทางยกระดับอุตราภิมุขแบ่งออกเป็น 2 ระบบ ได้แก่ ระบบเงินสดและระบบอิเล็กทรอนิกส์ (ETC) ซึ่งส่งผลต่อพฤติกรรมการขับขี่ โดยเฉพาะการชะลอและเร่งความเร็ว ส่งผลให้ระดับการปล่อยมลพิษแตกต่างกัน งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมจากการดำเนินงานของทั้งสองระบบ โดยประยุกต์ใช้วัฏจักรการขับขี่กรุงเทพมหานครร่วมกับระบบ Camera Analytics ในการเก็บข้อมูล ณ ด่านเก็บค่าผ่านทาง 9 แห่งบนทางยกระดับอุตราภิมุข โดยใช้ความเร็วของรถเป็นตัวชี้วัดการคำนวณปริมาณมลพิษจากก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2), คาร์บอนมอนอกไซด์ (CO), ไนโตรเจนออกไซด์ (NOX) และสารประกอบไฮโดรคาร์บอน (HC) ภายใต้ทั้งสภาวะการจราจรติดขัด (Congested) และไม่ติดขัด (Uncongested) ผลการศึกษาพบว่า ระบบ ETC สามารถลดการปล่อยมลพิษได้อย่างมีนัยสำคัญ โดยตลอดหนึ่งปี สามารถลด CO2 ได้ 71.97 ตัน, CO ได้ 26.41 กิโลกรัม, NOX ได้ 20.55 กิโลกรัม และ HC ได้ 2.41 กิโลกรัม ซึ่งเป็นผลจากการลดความถี่ของการหยุดและเร่งความเร็วบริเวณด่านฯ ในขณะที่ระบบเงินสดก่อให้เกิดการปล่อยมลพิษสูงกว่า เนื่องจากรถต้องชะลอและหยุดเพื่อชำระค่าผ่านทาง งานวิจัยนี้สะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพของระบบ ETC ในการลดมลพิษทางอากาศในเขตเมือง และสนับสนุนการกำหนดนโยบายเพื่อลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนผ่านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานการขนส่ง อย่างไรก็ตาม การศึกษานี้พิจารณาเฉพาะรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์เบนซินเท่านั้น เนื่องจากอุปกรณ์ตรวจวัดการจราจรที่มีอยู่ ณ ปัจจุบันยังไม่สามารถแยกประเภทการใช้เชื้อเพลิงของเครื่องยนต์ได้
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
วิธีการอ้างอิง
ฉบับ
บท
การอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 Engineering Institute of Thailand

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความที่ได้รับคัดเลือกนำเสนอในการประชุม NCCE ถือเป็นลิขสิทธิ์ของวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ (วสท.) (Engineering Institute of Thailand)