การศึกษาเพื่อประเมินประสิทธิภาพของการติดตั้งป้ายและอุปกรณ์ เพื่อเตือนความเร็วการจราจร ด้วยวิธีการวิเคราะห์เชิงลำดับชั้น
คำสำคัญ:
อุบัติเหตุทางถนน, ความปลอดภัยทางถนน, การเตือนความเร็วทางการจราจร, Analytic Hierarchy Processบทคัดย่อ
ประเทศไทยมีอัตราการเกิดอุบัติเหตุทางถนนสูง โดยเฉพาะการขับขี่ด้วยความเร็วเกินกำหนด ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของอุบัติเหตุบนทางหลวง คิดเป็น 76.78% ของอุบัติเหตุทั้งหมดในปี พ.ศ. 2565 ปัจจัยเสี่ยงสำคัญยังรวมถึงการไม่ปฏิบัติตามกฎจราจร การเมาแล้วขับ และการขาดโครงสร้างพื้นฐานที่เหมาะสม เพื่อแก้ไขปัญหานี้ การติดตั้งป้ายเตือนความเร็ว (Over Speed Warning) ได้รับการพัฒนาให้มีบทบาทสำคัญในการลดความเร็วของผู้ขับขี่ โดยเฉพาะในพื้นที่เสี่ยง เช่น ทางโค้งและทางลาดชัน ป้ายเตือนเหล่านี้ถูกออกแบบให้มองเห็นได้ชัดเจนและมีเทคโนโลยีตรวจจับความเร็วอัตโนมัติ ซึ่งช่วยเพิ่มความปลอดภัยบนถนนและลดจำนวนอุบัติเหตุอย่างมีนัยสำคัญ
อย่างไรก็ตาม ประสิทธิผลของป้ายเตือนความเร็วขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น พฤติกรรมผู้ขับขี่ ความชัดเจนของป้าย และสภาพแวดล้อม การศึกษาวิจัยเกี่ยวกับการออกแบบและการติดตั้งป้ายจึงมีความสำคัญในการพัฒนาแนวทางป้องกันอุบัติเหตุที่เหมาะสม โดยข้อมูลจากการวิจัยจะช่วยสนับสนุนการตัดสินใจเลือกใช้ป้ายเตือนความเร็วที่มีประสิทธิภาพสูงสุดในแต่ละพื้นที่ พร้อมทั้งเพิ่มความปลอดภัยบนถนนของประเทศไทยอย่างยั่งยืน
จากการประเมินทางเลือกในการติดตั้งป้ายเตือนความเร็ว พบว่า ป้าย “Your Speed” ได้รับคะแนนรวมสูงสุด (0.296) และแสดงให้เห็นถึงความเหมาะสมในทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็นด้านการรับรู้ของผู้ขับขี่ ความชัดเจนของข้อมูลที่สื่อสาร และศักยภาพในการลดอุบัติเหตุ จึงถือเป็นทางเลือกที่โดดเด่นที่สุดในภาพรวมขณะที่ ป้าย “Over Speed Warning” (คะแนน 0.261) มีความสามารถในการสร้างการรับรู้เกี่ยวกับความเร็วได้ดี แม้ว่าจะมีข้อจำกัดในเชิงสิ่งแวดล้อมบางประการป้าย “Speed Limit” (คะแนน 0.238) มีจุดแข็งด้านความคุ้นเคยและการเข้าใจง่ายของผู้ขับขี่ รวมถึงความคุ้มค่าด้านต้นทุนส่วน ป้าย “แจ้งเตือนความเร็ว” (คะแนน 0.205) แม้จะมีต้นทุนต่ำและบำรุงรักษาง่าย แต่พบว่ามีข้อจำกัดในการกระตุ้นการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมผู้ขับขี่ ทำให้ได้รับการประเมินอยู่ในลำดับท้ายสุด
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
ฉบับ
บท
การอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 Engineering Institute of Thailand

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความที่ได้รับคัดเลือกนำเสนอในการประชุม NCCE ถือเป็นลิขสิทธิ์ของวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ (วสท.) (Engineering Institute of Thailand)