การใช้คอนกรีตรีไซเคิลเพื่อทดแทนมวลรวมสำหรับแอสฟัลต์คอนกรีตผสมร้อน

บทคัดย่อ

วัสดุมวลรวมธรรมชาติ (NA) ที่ได้จากอุตสาหกรรมการทำเหมืองหินหรือโรงโม่หิน เป็นวัสดุที่ใช้ในงานก่อสร้างทุกประเภทรวมถึงงานถนน โดยวัสดุมวลรวมเป็นวัสดุหลักในการก่อสร้างผิวทางกว่าร้อยละ 80 ส่งผลทำให้การก่อสร้างถนนในแต่ละโครงการต้องใช้วัสดุมวลรวมธรรมชาติเป็นจำนวนมาก ความต้องการใช้วัสดุมวลรวมธรรมชาติเพื่อใช้ในงานก่อสร้างจึงเพิ่มตามไปด้วย สวนทางกับกำลังการผลิตวัสดุมวลรวมธรรมชาติที่มีอย่างจำกัด ทำให้มีการสำรวจและพัฒนาเทคโนโลยีที่เป็นนวัตกรรมใหม่จำนวนมากเพื่อสำรวจและตรวจสอบความเหมาะสมในการนำมาใช้เป็นวัสดุทางเลือกทดแทนวัสดุมวลรวมธรรมชาติ งานวิจัยนี้คณะผู้วิจัยได้คัดเลือกขยะและของเสียจากการก่อสร้างและการรื้อถอน (C&DW) ประเภทคอนกรีต (Concrete) นำมาใช้เป็นวัสดุมวลรวมทดแทนหรือวัสดุมวลรวมคอนกรีตรีไซเคิล (Recycled Concrete Aggregate, RCA) เพื่อใช้ในการออกแบบผิวทางแอสฟัลต์คอนกรีต ด้วยวิธีมาแชลล์ ตามมาตรฐานของกรมทางหลวง โดยทำการเปรียบเทียบคุณสมบัติทางวิศวกรรมและประสิทธิภาพการใช้งาน 3 ชนิด ได้แก่ แอสฟัลต์คอนกรีตจากวัสดุมวลรวมธรรมชาติ แอสฟัลต์คอนกรีตจากวัสดุมวลรวม RCA ร้อยละ 40 และแอสฟัลต์คอนกรีตจากวัสดุมวลรวม RCA ร้อยละ 90 ใช้วัสดุแอสฟัลต์ซีเมนต์ประเภท AC 60/70 เป็นวัสดุประสาน ผลการทดสอบพบว่าแอสฟัลต์คอนกรีตจากวัสดุ RCA ร้อยละ 40 และแอสฟัลต์คอนกรีตจากวัสดุ RCA ร้อยละ 90 ใช้ปริมาณแอสฟัลต์ซีเมนต์สูงกว่าแอสฟัลต์คอนกรีตจากวัสดุมวลรวมธรรมชาติ การทดสอบค่าเสถียรภาพและการไหล พบว่าแอสฟัลต์คอนกรีตจากวัสดุ RCA ร้อยละ 40 และแอสฟัลต์คอนกรีตจากวัสดุ RCA ร้อยละ 90 ผ่านตามเกณฑ์มาตรฐานของกรมทางหลวง และจากการทดสอบหาค่าต้านทานแรงดึงทางอ้อม (IDT) พบว่า แอสฟัลต์คอนกรีตจากวัสดุ RCA ร้อยละ 40 และแอสฟัลต์คอนกรีตจากวัสดุ RCA ร้อยละ 90 มีค่าต้านทานแรงดึงทางอ้อมน้อยกว่าแอสฟัลต์คอนกรีตจากวัสดุมวลรวมธรรมชาติ ที่ร้อยละ 1 และร้อยละ 16 ตามลำดับ เมื่อพิจารณาความคุ้มค่าทางเศรษฐศาสตร์ พบว่าแอสฟัลต์คอนกรีตจากวัสดุ RCA ร้อยละ 40 และแอสฟัลต์คอนกรีตจากวัสดุ RCA ร้อยละ 90 มีต้นทุนค่าใช้จ่ายสูงกว่าแอสฟัลต์คอนกรีตจากวัสดุมวลรวมธรรมชาติ ร้อยละ 11 และร้อยละ 47 เนื่องจากวัสดุแอสฟัลต์คอนกรีตจากวัสดุ RCA ใช้แอสฟัลต์ซีเมนต์ในปริมาณที่มากกว่าอัตราส่วนผสมปกติ