การประเมินและการจัดการความเสี่ยงที่ส่งผลต่อความล่าช้าของโครงการก่อสร้าง : กรณีศึกษาโครงการก่อสร้างในพื้นที่ต่างกัน

บทคัดย่อ

โครงการก่อสร้างทั้งหมดมีความเสี่ยงในระดับหนึ่ง การระบุและจัดการความเสี่ยงต้องใช้ทักษะ การวางแผนอย่างรอบคอบ และสามารถตัดสินใจได้ดีอย่างรวดเร็ว เมื่อความเสี่ยงกลายเป็นจริง อาจเป็นปัญหาต่อความสำเร็จของโครงการได้ ความเสี่ยงที่มีการจัดการอย่างเหมาะสมสามารถนำไปสู่ผลกำไรที่สูงขึ้น และลดระยะเวลาในงานก่อสร้าง งานวิจัยครั้งนี้จึงศึกษาและวิเคราะห์ปัญหาความเสี่ยงที่เกิดขึ้นในงานก่อสร้างที่มีผลต่อความล่าช้าของการก่อสร้างในโครงการ และทำการประเมินความเสี่ยงที่เกิดขึ้นเพื่อหาแนวทางแก้ไข วิธีการบริหารงานก่อสร้างในแต่ละพื้นที่ โดยได้ศึกษาโครงการก่อสร้างทั้งหมด 16 โครงการ 16 จังหวัด แบ่งเป็น ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 6 จังหวัด ภาคกลาง 5 จังหวัด ภาคตะวันออก 2 จังหวัด ภาคเหนือ 2 จังหวัด และภาคใต้ 1 จังหวัด โดยได้เก็บข้อมูลจากการสัมภาษณ์ และ กรอกแบบสอบถาม พบว่า ปัญหาและความเสี่ยงที่เกิดขึ้นในโครงการ พบปัญหามากที่สุดคือ เจ้าของโครงการขอปรับเปลี่ยนตำแหน่งอาคาร ผู้รับเหมาขาดสภาพคล่องทางการเงิน โครงการก่อสร้างที่อยู่ในพื้นที่ศูนย์วิจัยและติดกับชุมชนต้องระมัดระวังในเรื่องปัญหามลภาวะทางเสียงและฝุ่น ปัญหาเจอชั้นดินแข็งก่อนถึงชั้นที่สามารถมีกำลังรับน้ำหนักบรรทุกของเสาเข็ม การดำเนินงานก่อสร้างในชั้นดินอ่อน และปัญหาฝนตกหนักจนไม่สามารถเริ่มงานได้พร้อมโครงการอื่นๆ และจากการวิเคราะห์ความเสี่ยงพบว่า ความเสี่ยงที่มีค่าระดับความเสี่ยงมาก ได้แก่ ความเสี่ยงของการเบิกจ่ายเงินตามงวดงานที่ได้เงินล่าช้าของผู้รับจ้าง(10.26) ความเสี่ยงคุณภาพฝีมือของผู้รับจ้าง(10.69) ความเสี่ยงที่ผู้รับจ้างขาดแคลนแรงงานที่มีฝีมือหรือแรงงานไม่มีความสามารถและชำนาญในงาน(10.71) ความเสี่ยงที่ผู้รับจ้างมีบุคลากรไม่เพียงพอ(10.82) ความเสี่ยงที่จะเจอปัญหาที่มองไม่เห็นในงานก่อสร้างชั้นใต้ดิน เช่น ท่อน้ำเดิมในพื้นที่,น้ำใต้ดิน ปัญหาชั้นดินแข็ง ปัญหาชั้นดินอ่อน เป็นต้น(10.69) ความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุระหว่างก่อสร้าง(10.96) และ ความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุระหว่างขนส่งวัสดุ (10.85)